วิธีที่ 1 พยายามชำระเกินทุกงวด
โดยปกติธนาคารจะกำหนดอัตราผ่อนสินเชื่อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือทาวน์โฮมในอัตราต่ำสุด เช่น มนุษย์เงินเดือนซื้อบ้านในราคา 5 ล้านบาท ทำการวางเงินดาวน์ 10% เหลือยอดเงินจำนวน 4,500,000 บาท ในการขอกู้ธนาคาร ซึ่งธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 5.995% ทำให้มียอดผ่อนชำระต่อเดือนอยู่ที่ 26,965.31 บาท เป็นระยะเวลา 30 ปี ถ้าหากมนุษย์เงินเดือนสามารถชำระเกินเป็น 35,000 บาทต่อเดือน จะทำให้สามารถลดระยะเวลาที่เป็นหนี้กับธนาคารจาก 30 ปี เหลือประมาณ 12 ปี
วิธีที่ 2 เลือกโปะบ้านช่วงดอกเบี้ยลด
มนุษย์เงินเดือนที่ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคาร เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ส่วนใหญ่มักได้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ซึ่งเป็นเรทอัตราดอกเบี้ยต่ำ ดังนั้นในช่วงระยะเวลานี้จึงเหมาะแก่การโปะบ้าน เพื่อให้ลดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
ตัวอย่าง: นายเอ กู้เงินซื้อบ้านโครงการสิริเพลส ประชาอุทิศ 90 กับธนาคารแห่งหนึ่งเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท และต้องทำการผ่อนต่องวด 14,000 บาท โดยงวดถัดไปนายเอต้องการโปะบ้านแบบลดต้นลดดอก โดยเลือกโปะบ้านเพิ่มอีก 16,000 บาท ทำให้งวดนี้จะต้องจ่ายทั้งหมด 30,000 บาท หลังจากวันที่ตัดยอดไปแล้ว 5 วัน ซึ่งธนาคารได้ทำการคิดดอกเบี้ยทุกวัน ตกวันละประมาณ 300 บาท ดังนั้นเงินจำนวน 30,000 บาท จะถูกหักเงินต้น 28,500 บาท และดอกเบี้ย 1,500 บาท
ทั้งนี้จากกรณีตัวอย่างข้างต้นหากนายเอต้องการโปะบ้านแบบลดเงินต้นอย่างเดียวสามารถทำได้โดยการจ่ายค่างวดผ่อนบ้าน 2 รอบ คือ รอบที่ 1 จ่ายค่างวด 14,000 บาท ตามที่ธนาคารกำหนด ก่อนวันที่ตัดยอด โดยระบบของธนาคารจะนำเงินก้อนนี้ไปหักดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย และหลังจากวันที่ตัดยอดจึงทำการโปะบ้านจำนวนเงิน 16,000 บาท เงินที่ถูกโปะทั้งหมดจะนำไปลดเงินต้นทั้งหมดทันที ทั้งนี้เมื่อเงินต้นถูกลด อัตราดอกเบี้ยในเดือนถัดไปก็จะปรับลดตามด้วยเช่นกัน ทำให้นายเอสามารถผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น
วิธีที่ 2 Refinance หรือ Retention ขอปรับดอกเบี้ยลดลง
กรณีนี้เป็นประโยชน์กับมนุษย์เงินเดือนที่เป็นหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารจนครบ 3 ปี หรือตามสัญญาที่ธนาคารระบุไว้ จากดอกเบี้ยแบบคงที่ตลอด 3 ปีจะถูกปรับเปลี่ยนเป็น MRR หรือดอกเบี้ยลอยตัวตามอัตราของดอกเบี้ยในช่วงนั้น ทำให้ดอกเบี้ยถูกปรับสูงขึ้น เงินที่ต้องผ่อนบ้านกับธนาคารแต่ละงวด แทนที่ส่วนใหญ่จะถูกนำไปหักเงินต้น ในทางกลับกันถูกนำไปหักดอกเบี้ยจำนวนมาก ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนที่อยากปิดหนี้แบบรวดเร็วสามารถขอปรับดอกเบี้ยลดลงได้ด้วย 2 วิธีนี้
Refinance
วิธีนี้คือการย้ายหนี้บ้านจากธนาคารเดิม ไปอีกธนาคารหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขออัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ถูกกว่า เพื่อให้มนุษย์เงินสามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดภาระการผ่อนบ้าน
Retention
เป็นวิธีปรับดอกเบี้ยให้ลดลงด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่กับธนาคารเดิม ที่มนุษย์เงินเดือนได้ยื่นกู้อยู่และครบ 3 ปีหรือตามสัญญาที่ธนาคารกำหนดแล้ว โดยข้อดีของวิธีนี้คือ หากมนุษย์เงินเดือนมีประวัติการผ่อนบ้านดีมาตลอด โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติ Retention เพื่อปรับลดดอกเบี้ยก็ง่ายขึ้น
ทั้งนี้การที่มนุษย์เงินจะทำธุรกรรมกับธนาคารทั้ง Refinance หรือ Retention ได้นั้น จะต้องดูก่อนว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยนี้ครบ 3 ปี หรือตามสัญญาที่ธนาคารกำหนดแล้วหรือเปล่า เพราะถ้าหากขอปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงทั้ง 2 วิธีข้างต้นโดยที่ยังไม่หมดสัญญา อาจจำเป็นต้องจ่ายค่าปรับตามที่ธนาคารกำหนดไว้
วิธีที่ 2 หยุดการสร้างหนี้เพิ่ม
วิธีสุดท้ายนี้เรียกว่าเป็นวิธีที่สำคัญอย่างมากสำหรับมนุษย์เงินเดือน ที่จะทำให้สามารถปิดหนี้บ้านได้เร็วขึ้นด้วยการไม่ก่อหนี้เพิ่ม เพราะถ้าหากเป็นหนี้ทั้งบัตรเครดิต รถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลต่างๆ แน่นอนว่าการจะผ่อนบ้านให้หมดเร็วคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นทางที่ดีที่สุด เน้นการไม่สร้างหนี้เพิ่ม และเปลี่ยนเป็นการสร้างรายได้เสริม หาเงินจากรายได้พิเศษ หรือจากการออมก็สามารถนำมาโปะบ้าน พร้อมปฏิบัติตาม 3 วิธีข้างต้น ก็จะสามารถทำให้มนุษย์เงินเดือนที่ซื้อบ้าน คอนโด หรือทาวน์โฮมอยู่ตอนนี้ ปิดหนี้ได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีประวัติทางการเงินที่ขาวสะอาด สะดวกต่อการยื่นขอสินเชื่อต่างๆ กับทางธนาคารในอนาคตอีกด้วย